มุมมองอาร์บิเตอร์ (Arbiter’s View)
โดย แมวอ้วน
สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน ในคอลัมน์ “มุมมองอาร์บิเตอร์” นี้ ผม นายพัชรวีร์ พรหมวงศ์ หรือ แมวอ้วน จะขอแลกเปลี่ยนมุมมองและประสบการณ์จากการตัดสินการแข่งขันรายการต่างๆ กับท่านผู้อ่าน โดยเฉพาะรายการที่กำลังจะมีขึ้นในช่วงเวลานี้ครับ
เนื่องจากเป็นวาระที่การแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยครั้งที่ 43 “กันเกราเกมส์” ณ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี เพิ่งเสร็จสิ้นไป “มุมมองอาร์บิเตอร์” ฉบับนี้จะเล่าถึงกีฬามหาวิทยาลัยครั้งนี้ครับ
แต่ก่อนจะเริ่ม ผมขอปูพื้นให้ท่านผู้อ่านรับทราบก่อนว่า ผมมีส่วนร่วมในกีฬามหาวิทยาลัยในฐานะกรรมการครั้งแรก คือ กีฬามหาวิทยาลัยครั้งที่ 42 “นนทรีเกมส์”ณ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กำแพงแสน จังหวัดนครปฐม โดยผมได้เดินทางไปพร้อมกับคุณภาณุพันธ์ วิชชุประภา เลขาธิการสมาคมหมากรุกสากลแห่งประเทศไทย ในฐานะหัวหน้ากรรมการตัดสิน และคุณจุไรรัตน์ ภูพิเศษศักดิ์ เจ้าหน้าที่สมาคม ในฐานะกรรมการตัดสินอีกท่านหนึ่ง พวกเราได้รับการดูแลอย่างดียิ่งจากเจ้าภาพคือมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน โดยเฉพาะท่าน ผศ.วสันต์ เดือนแจ้ง ต้องขอขอบพระคุณอาจารย์มา ณ ที่นี้ครับ
ก่อนหน้า “นนทรีเกมส์” ผมเคยมีส่วนร่วมในกีฬามหาวิทยาลัยอื่นๆ ในฐานะโค้ชหรือผู้ฝึกสอนหมากรุกสากลประจำทีมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในกีฬามหาวิทยาลัย 4 ครั้ง คือ ครั้งที่ 36, 38, 39 และ 40 ซึ่งมีมหาวิทยาลัยที่เป็นเจ้าภาพและช่วงเวลาที่จัด คือ รามคำแหง (11-18 มกราคม พ.ศ. 2552) จุฬาฯ (15 – 22 มกราคม พ.ศ. 2554) สงขลานครินทร์ (1-8 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 ซึ่งเลื่อนจาก 14-21 มกราคม พ.ศ. 2555 เพราะอุทกภัยในพื้นที่กรุงเทพมหานครและภาคกลาง) และสถาบันพลศึกษา (10-19 มกราคม พ.ศ. 2556) ตามลำดับ ดังนั้นผมจึงมีความคุ้นเคยกับการจัดการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยรูปแบบต่างๆ และนักกีฬาผู้เข้าแข่งขันจำนวนมาก แต่ผู้ที่ทำหน้าที่กรรมการตัดสินจะต้องไม่นำความสนิทสนมคุ้นเคยมาใช้ในการตัดสินข้อพิพาทหรือเลือกปฏิบัติระหว่างนักกีฬาแต่ละคนหรือแต่ละสถาบัน หากกรรมการตัดสินคนใดละเมิดจริยธรรมข้อนี้ ย่อมถูกผู้คนประณามหรือต่อต้าน และย่อมนำความเสื่อมเสียมาสู่การแข่งขันนั้นและกีฬาหมากรุกสากลโดยรวม
ในการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยครั้งที่ 43 “กันเกราเกมส์” ณ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ในปี พ.ศ. 2559 นี้ คณะเดินทางของเรา ซึ่งประกอบด้วยคุณภาณุพันธ์ วิชชุประภา ในฐานะผู้ควบคุมการแข่งขัน คุณสหพล นาควานิช เหรัญญิกสมาคมกีฬาหมารุกสากลแห่งประเทศไทย ในฐานะผู้แทนสมาคมกีฬาหมากรุกสากลแห่งประเทศไทย คุณจุไรรัตน์ ภูพิเศษศักดิ์ คุณปราการ กลับวงศ์ คุณพุทธรักษา คำปลิว ทั้ง 3 ท่านในฐานะกรรมการตัดสิน และผม ในฐานะหัวหน้ากรรมการตัดสิน ได้เดินทางไปถึงจังหวัดอุบลราชธานีในวันที่ 8 มกราคม ทั้งนี้ คุณจรัญพล สัจจะพรเทพ (พี่แมวทอง) ตามมาสมทบในวันที่ 11 มกราคม
เมื่อมาถึงในวันที่ 8 มกราคมนั้น หลังจากเดินทางไปเก็บสัมภาระ ณ ที่พัก และรับประทานอาหารกลางวันในช่วงบ่ายแล้ว พวกเราก็เดินทางต่อไปยังมหาวิทยาลัยอุบลราชธานีเพื่อจัดสถานที่สำหรับการแข่งขันหมากรุกสากล ด้วยการช่วยเหลือของนักศึกษาอาสาสมัครของมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี 4 คน โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่งจึงแล้วเสร็จ หลังจากนั้น พวกเราได้จัดประชุมผู้จัดการแข่งขันหมากรุกสากล ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนสมาคมกีฬาหมากรุกสากลแห่งประเทศไทย ผู้ควบคุมการแข่งขัน หัวหน้ากรรมการตัดสิน และกรรมการตัดสิน ซึ่งทำหน้าที่กรรมการประกบคู่แข่งขันด้วย อีกประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง เพื่อกำหนดรายละเอียดของระเบียบกติกาเพิ่มเติมจากที่ระบุไว้และโดยได้รับมอบอำนาจใน “ประกาศคณะกรรมการบริหารกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ว่าด้วยการจัดการแข่งขันกีฬาหมากกระดาน กีฬามหาวิทยาลัยครั้งที่ 43 มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี” และ “ประกาศคณะอนุกรรมการฝ่ายเทคนิคการกีฬา คณะกรรมการบริหารกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย เรื่องวิธีจัดการแข่งขันหมากกระดาน ประเภทหมากรุกสากล กีฬามหาวิทยาลัยครั้งที่ 43”
การประชุมทางเทคนิค (Technical Meeting) ในวันที่ 9 มกราคม ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนของทีมกีฬาหมากรุกสากลของสถาบันการศึกษาต่างๆ และผู้จัดการแข่งขันหมากรุกสากล โดยมีวาระการประชุมคือ แนะนำผู้ควบคุมการแข่งขันและกรรมการผู้ตัดสิน ชี้แจงกติกาการแข่งขัน รับรองรายชื่อนักกีฬา จับฉลากสีที่ผู้เล่นอันดับ 1 ของแต่ละประเภทจะได้ในกระดานแรกของการแข่งขันประเภทนั้น และแจ้งกำหนดการแข่งขันทั้ง 4 ประเภท ซึ่งประกอบด้วย
- ประเภททีมชาย ซึ่งแต่ละสถาบันการศึกษาส่งได้ไม่เกิน 3 คน
- ประเภททีมหญิง ซึ่งแต่ละสถาบันการศึกษาส่งได้ไม่เกิน 3 คน
- ประเภทบุคคลชาย ซึ่งแต่ละสถาบันการศึกษาส่งได้ไม่เกิน 2 คน
- ประเภทบุคคลหญิง ซึ่งแต่ละสถาบันการศึกษาส่งได้ไม่เกิน 2 คน
นอกจากนี้ ยังมีการประชาสัมพันธ์การแข่งขันเสริม (Side Events) ที่จัดขึ้นสำหรับผู้ที่ไม่ผ่านรอบคัดเลือกจำนวน 4 รายการ คือ Rapidplay, Blitz, Chess 960 และ Transfer Chess (ฺBughouse) สำหรับให้นักกีฬาที่ไม่ผ่านการแข่งขันในรอบคัดเลือก
กติกาการแข่งขันที่ใช้ในการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยครั้งนี้ เป็นไปตาม “Laws of Chess: For competitions starting on or after 1 July 2014” ของสมาพันธ์หมากรุกสากลโลก (FIDE) โดยการแข่งขันในรอบคัดเลือกจะบังคับใช้ตามทุก Article คือ Articles 1-5 ซึ่งเป็น Basic Rules of Play และ Article 6-12 Competition Rules แต่ไม่ใช้ Article ที่อยู่ในภาคผนวก ส่วนการแข่งขันในรอบรองชนะเลิศและรอบชิงชนะเลิศ จะบังคับใช้ Article A. Rapidplay และ Article B. Blitz ร่วมด้วยในกรณีที่เสมอกันในเกม Standard นอกจากนี้ ผมในฐานะหัวหน้ากรรมการตัดสิน ได้ออกประกาศชี้แจงกติกาการแข่งขันเพิ่มเติมและกำหนดประเภทของโทษและบทลงโทษที่ตามมา เป็น 4 ประเภท คือ
- การกระทำผิดทั่วไป ซึ่งครั้งแรกจะถูกเตือนด้วยการวางใบเหลืองใบแรก ครั้งที่ 2 ด้วยการวางใบเหลืองอีกใบ และครั้งที่ 3 ด้วยการปรับแพ้ในเกมนั้น
- การกระทำผิดแบบ Illegal Move จะถูกเตือน 1 ครั้งและเพิ่มเวลาให้คู่ต่อสู้ 2 นาที หรือ 1 นาทีในกรณีการแข่งขันแบบ Blitz
- การกระทำผิดแบบรุนแรง ได้แก่ การละเมิดข้อกำหนดเกี่ยวกับสถานที่จัดการแข่งขัน (Playing Venue) หรือบริเวรณการแข่งขัน (Playing Area) จะถูกเตือนเพียง 1 ครั้งในการแข่งขันทั้งประเภทนั้น หลังจากนั้นจะปรับแพ้ในทุกเกมเมื่อกระทำผิดแบบนั้นซ้ำอีก
- การกระทำผิดแบบร้ายแรง ได้แก่ การพกอุปกรณ์สื่อสารในระหว่างการแข่งขัน การสื่อสารเรื่องเกมที่กำลังดำเนินอยู่กับบุคคลที่ไม่ใช่กรรมการตัดสินในระหว่างการแข่งขัน ฯลฯ จะถูกปรับแพ้ในเกมนั้นทันที
การจำแนกประเภทของโทษและบทลงโทษเช่นนี้ ไม่เคยมีมาก่อนในการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัย แต่ได้ผ่านการพิจารณาของที่ประชุมคณะกรรมการจัดการแข่งขันหมากรุกสากลในวันที่ 8 มกราคมแล้ว และได้ชี้แจงต่อที่ประชุมทางเทคนิค ซึ่งมีทีมสถาบันการศึกษาต่างๆ ร่วมด้วย ในวันที่ 9 มกราคม
การแข่งขันรอบคัดเลือกประเภททีมจัดขึ้นใน 2 วันแรก (10-11 มกราคม) โดยใช้ระบบ Swiss Team 6 รอบ ซึ่งจะประกบคู่การแข่งขันแต่ละรอบระหว่างสถาบันกับสถาบัน ทีมสถาบันการศึกษาแต่ละแห่งจะต้องส่งการจัดลำดับนักกีฬาประจำรายการ (คงอยู่ตลอดการแข่งขันประเภททีม) ก่อนเริ่มการแข่งขันรอบแรกอย่างช้า 1 ชั่วโมง เนื่องจากการแข่งขันแต่ละรอบจะให้แต่ละทีมสถาบันการศึกษาส่งผู้เล่น 2 คน ทีมสถาบันการศึกษาที่ส่งรายชื่อนักกีฬาประเภททีม 3 คน สามารถเลือกผู้เล่นที่จะพักได้ 1 คน โดยผู้เล่นที่อยู่ลำดับถัดลงมาจากผู้เล่นคนที่พักในรอบนั้นจะถูกเลื่อนขึ้นมาเล่นแทนและหากมีผู้เล่นคนถัดลงไปอีกก็จะถูกเลื่อนขึ้นมาด้วย ซึ่งกรรมการผู้ตัดสินได้ชี้แจงในที่ประชุมทางเทคนิคแล้วว่า ทีมสถาบันการศึกษามีเวลาส่งลำดับนักกีฬาประจำรอบก่อนเริ่มการแข่งขันอย่างน้อย 15 นาที หากไม่ส่งหรือส่งไม่ทัน กรรมการประกบคู่จะถือตามลำดับนักกีฬาประจำรายการ ซึ่งทีมสถาบันการศึกษาจำนวนไม่น้อยใช้ความยืดหยุ่นนี้ในการสับหลีกผู้เล่นในบางรอบ ตามวิธีการของซุนปิน (Sun Bin) ในยุคจ้านกว๋อ (The Warring States Period แปลว่า ยุครณรัฐ หรือสมัยที่แว่นแคว้นต่างๆ ของประเทศจีนรบพุ่งกันอย่างหนัก ระหว่าง 475 ปีก่อนคริสตราช ถึง 221 ปีก่อนคริสตศักราช) ซึ่งผมจะขอเล่าให้ท่านผู้อ่านฟังสักเล็กน้อยครับ
ซุนปินถือกำเนิดและเติบโตในแคว้นฉี (Qi) ได้เป็นศิษย์เอกของปราชญ์แห่งหุบเขาปิศาจ (Guiguzi) ต่อมาผังจวน (Pang Juan) ศิษย์ผู้พี่และพี่ร่วมสาบานของซุนปิน ได้ลงจากเขาเพื่อมารับราชการที่แคว้นเว่ย (Wei) สร้างความดีความชอบพอสมควร เว่ยฮุยอ๋อง (King Hui of Wei กษัตริย์แคว้นเว่ย นามว่าฮุย) ก็ทรงขอให้ผังจวนแนะนำบุคคลที่รู้จักมารับราชการเพิ่มเติม ผังจวนจึงแนะนำซุนปินให้เข้ารับราชการในแคว้นเว่ยเช่นกัน ใจหนึ่งเพราะเกรงว่าซุนปินจะไปอยู่แคว้นอื่นแล้วเป็นอุปสรรคต่อการขยายอำนาจของแคว้นเว่ย ซุนปินเมื่อมาเข้าเฝ้าเว่ยฮุยอ๋อง ก็แสดงความสามารถจนเว่ยฮุยอ๋องทรงตั้งเป็นที่ปรึกษาและพระราชทานทรัพย์สิน ด้วยจิตริษยาตั้งแต่สมัยเรียนสำนักเดียวกัน ผังจวนหาโอกาสใส่ร้ายซุนปินว่าเป็นสายลับให้แคว้นฉี จนเว่ยฮุยอ๋องหลงเชื่อ จับซุนปินขังคุก ลงโทษสักหน้า และตัดสะบ้าหัวเข่าทำให้ซุนปินพิการเดินไม่ได้ แต่ด้วยสติปัญญาและความรู้ที่อาจารย์สอนมา ซุนปินแสร้งเสียสติ เมื่อทราบว่าผังจวนสังเกตอยู่ ซุนปินก็กินอาจม (ไม่ชัดว่าอุจจาระของตัวเองหรือมูลสัตว์) ให้ผังจวนเห็น จนผังจวนคลายใจปล่อยให้การคุมขังซุนปินหย่อนยานลง ต่อมาซุนปินสามารถขอความช่วยเหลือจากคณะทูตแห่งแคว้นฉีและแอบหนีออกจากแคว้นเว่ยโดยซ่อนในเครื่องบรรณาการ
เมื่อถึงแคว้นฉี ซุนปินได้พบแม่ทัพเถียนจี้ (Tian Ji) ซึ่งเมื่อพูดคุยกันก็ชื่นชมในสติปัญญาและวิชาความรู้จากการศึกษาของซุนปิน และได้เป็นแขกพำนักในจวนของเถียนจี้ วันหนึ่งเถียนจี้พาซุนปินไปชมการแข่งพนันม้า (1 ใน 4 อบายมุข คือ สุรา นารี พาชี และกีฬาบัตร) ซึ่งเถียนจี้แพ้พนันบ่อยๆ ซุนปินสังเกตไม่นานก็เห็นว่า ม้าแข่งมี 3 ชั้น คือ ม้าชั้นดี ม้าชั้นกลาง และม้าชั้นเลว จึงแนะให้เถียนจี้เสนอวางพนันม้าแบบแข่ง 3 รอบ หากชนะ 2 ใน 3 ถือว่าชนะพนัน แล้วให้เถียนจี้นำม้าชั้นเลวมาแข่งกับม้าชั้นดีของคู่แข่ง นำม้าชั้นดีมาแข่งกับม้าชั้นกลางของคู่แข่ง และนำม้าชั้นกลางมาแข่งกับม้าชั้นเลวของคู่แข่ง ดังนั้นเถียนจี้จึงชนะพนันและเพิ่มความเลื่อมใสในตัวซุนปิน ฉีเว่ยอ๋อง (King Wei of Qi กษัตริย์แคว้นฉี นามว่าเว่ย) ทรงประทับใจในกลยุทธ์ของเถียนจี้ เถียนจี้จึงแนะนำซุนปินให้ฉีเว่ยอ๋องทรงใช้ในราชการ ฉีเว่ยอ๋องจะทรงแต่งตั้งซุนปินเป็นแม่ทัพ แต่ซุนปินปฏิเสธ เพราะไม่สามารถขี่ม้าได้ และขอเป็นที่ปรึกษาเท่านั้น เมื่อแคว้นจ้าวถูกแคว้นเว่ยบุกใน 454 ปีก่อนคริสตซักราช ซุนปินในฐานะที่ปรึกษาของแม่ทัพเถียนจี้ได้เอาชนะผังจวนในกลยุทธ์ “ล้อมเว่ยช่วยจ้าว” (Besiege Wei to rescue Zhao) อันโด่งดัง ซึ่งกลายมาเป็น 1 ใน 36 กลยุทธ์ (ซุนปินใช้กลยุทธ์นี้อีกครั้งใน 10 หรือ 12 ปีให้หลังเมื่อแคว้นเว่ยบุกแคว้นหาน และได้รับชัยชนะเด็ดขาด)
ผมขอเล่าประวัติของซุนปินเพียงเท่านี้ครับ เพราะจ้านกว๋อเป็นกลียุคที่เต็มไปด้วยเยี่ยงอย่างอกุศลกรรมให้ผู้มีปัญญาในยุคสมัยอื่นหลีกเลี่ยงเท่านั้น หากแต่กลยุทธ์ “ม้าแข่ง” ของซุนปินสามารถนำมาใช้ในเกมการแข่งขันในยุคหลังได้ โดยเฉพาะในกรณีที่คู่แข่งไม่มีทางเลือกในการเปลี่ยนตัว และเป็นส่วนหนึ่งของทฤษฎีเกม (Game Theory) ซึ่งใช้ในวิชาการด้านสังคมศาสตร์ (Social Sciences)
การแข่งขันประเภททีมในวันแรก (10 มกราคม) ประสบปัญหาเล็กน้อย เพราะการแข่งขันบางรอบเสร็จสิ้นช้า เมื่อกรรมการประกบคู่รายงานผลการแข่งขันของรอบนั้นแล้ว ต้องรอ 15 นาทีก่อนถึงจะประกาศการประกบคู่สถาบันการศึกษาในรอบถัดไปได้ ทำให้ทีมสถาบันการศึกษาบางแห่งไม่สามารถส่งอันดับนักกีฬาประจำรอบได้ทันเวลา 15 นาทีก่อนเริ่มการแข่งขัน ผมในฐานะหัวหน้ากรรมการตัดสินจึงขอคำปรึกษาจากคุณภาณุพันธ์ ผู้ควบคุมการแข่งขัน และอาจารย์ชูเกียรติ เกียรติธีรรัตน์ ผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) และตัดสินใจเรียกประชุมทีมสถาบันการศึกษาในช่วงเช้าวันที่ 2 ของการแข่งขัน (11 มกราคม) เพื่อขอคำปรึกษา ซึ่งที่ประชุมมีมติให้ผมในฐานะหัวหน้ากรรมการตัดสินสามารถเลื่อนกำหนดการแข่งขันให้ช้าลงได้ในกรณีที่การแขงขันในรอบก่อนหน้าหน้าเสร็จสิ้นช้าเกินไป แต่ต้องประกาศเป็นลายลักษณ์อักษรชัดเจนบนเอกสารประกาศผลการแข่งขันของรอบเก่าและเอกสารประกาศการประกอบคู่ของรอบใหม่
วันที่ 12 มกราคม มีการแข่งขันประเภททีมรอบรองชนะเลิศ ได้มีการจัดการแข่งขันหมากรุกสากลแบบ Rapidplay Tournament ด้วยระบบเวลา 25 นาที เพิ่มตาละ 10 วินาที ซึ่งผู้ชนะเลิศ คือ นายเทิดศักดิ์ วงษ์สวรรค์ ส่วนในวันต่อมาที่มีการแข่งขันประเภททีมรอบชิงชนะเลิศ (13 มกราคม) มีการแข่งขันหมากรุกสากลแบบ Blitz ซึ่งคุณจรัญพล (พี่แมวทอง) เป็นผู้ชนะเลิศในรายการนี้
การแข่งขันหมากรุกสากลใน “กันเกราเกมส์” หลังจากนั้นเป็นไปด้วยดี ไม่มีรอบไหนที่เสร็จสิ้นช้ากว่าที่เกิดขึ้นในวันแรกของการแข่งขันเลย ผลการแข่งขันประเภททีมมีดังนี้
ประเภททีมชาย
เหรียญทอง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เหรียญเงิน มหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต
เหรียญทองแดง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ประเภททีมหญิง
เหรียญทอง มหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต
เหรียญเงิน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
เหรียญทองแดง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
วันที่ 14-15 มกราคม เป็นวันที่จัดการแข่งขันหมากรุกสากลประเภทบุคคลรอบคัดเลือก ซึ่งใช้ระบบ Swiss 6 รอบ เหตุการณ์เป็นไปอย่างปกติ และได้ผู้เข้ารอบรองชนะเลิศประเภทบุคคล 4 คน
วันที่ 16 มกราคม มีการแข่งขันรอบรองชนะเลิศ ซึ่งเหตุการณ์เรียบร้อยดี จนกระทั่งมีผู้เล่นผู้หนึ่งออกไปซื้อมะม่วงในระหว่างการแข่งขัน แม้จะมีเจ้าหน้าที่การแข่งขันตามไปด้วย แต่ก็เป็นความผิดแบบรุนแรง จึงถูกคาดโทษว่าหากกระทำผิดอีกระหว่างเกมใดจะถูกปรับแพ้ในเกมนั้นทุกครั้ง ขณะเดียวกัน ผู้เล่นที่ไม่ผ่านรอบคัดเลือก รวมถึงผู้สนใจต่างๆ ก็ได้ลงสมัครและแข่งขันในรายการ Chess 960 ซึ่งเป็นหมากรุกสากลที่จัดให้การตั้งตัวหมากนาย (หลังพอนด์) เป็นไปแบบสุ่ม แต่มีเงื่อนไข 2 ประการ คือ 1) คิงต้องอยู่ระหว่างรุคทั้ง 2 ลำ และ 2) บิชอป 2 ตัวต้องอยู่บนช่องคนละสีกัน ที่เหลือเดินเหมือนหมากรุกสากลโดยปกติ ซึ่งผู้ชนะเลิศก็คือ นายเทิดศักดิ์ วงษ์สวรรค์ อีกเช่นเคย
วันที่ 17 มกราคม มีการแข่งขันชิงชนะเลิศประเภทบุคคล และมีการแข่งขัน Transfer Chess หรือ Bughouse ซึ่งแข่งขันเป็นทีม ทีมหนึ่งมี 2 คน โดยผู้เล่นคนหนึ่งจะได้สีดำและอีกคนหนึ่งจะได้สีขาว พบกับทีมคู่แข่งที่มี 2 คนและเล่นสลับสีเช่นกัน เมื่อผู้เล่นกินตัวหมากของอีกฝั่งได้ จะนำหมากตัวนั้นไปวางไว้ในคลังให้เพื่อนร่วมทีมนำไปใช้ลงบนช่องที่ว่างในกระดานของตนได้ โดยจะถือเป็น 1 ตาเดิน โดยทีมผู้ชนะเลิศ คือ คู่ของพี่แมวทองกับนายภูมิพงศ์ วิวรรธนะเดช (นักสืบ) ส่วนการแข่งขันชิงชนะเลิศประเภทบุคคลมีผลการแข่งขันดังนี้
ประเภทบุคคลชาย
เหรียญทอง นายธนดล กุลพฤทธานนท์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
เหรียญเงิน นายวโรฒม์ คณานับ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เหรียญทองแดง นายภูมิพงศ์ วิวรรธนะเดช มหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต และ
นายเทพฤทธิ์ โยธินนรธรรม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ประเภทบุคคลหญิง
เหรียญทอง นางสาวมนันธรณ์ อติกาฬคชสีห์ มหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต
เหรียญเงิน นางสาวพรอุมา พรหมสิรินิมิต มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
เหรียญทองแดง นางสาวธวัลพร ธานินทร์ธราธาร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ
นางสาวศิริขวัญ ปิ่นเพชรสวรรค์ มหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต
หลังจากพิธีมอบรางวัลแล้ว พวกเราก็ได้รับเชิญให้รับประทานอาหารที่เจ้าภาพได้จัดเลี้ยงไว้ พวกเราต้องขอขอบพระคุณมหาวิทยาลัยอุบลราชธานีผู้เป็นเจ้าภาพ รวมถึง อ.สมศักดิ์ ค้อมศิรินทร์ ผู้ดูแลต้อนรับเราอย่างดียิ่ง มา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ
สุดท้ายนี้ ขอนำเกมแรกในรอบชิงชนะเลิศ ประเภทบุคคลหญิง ระหว่างนางสาวมนันธรณ์ อติกาฬคชสีห์ (elo 1670) มหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต และนางสาวพรอุมา พรหมสิรินิมิต (unrated) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งมีตำแหน่งที่น่าสนใจในหลายจังหวะมาแสดงให้ท่านผู้อ่านได้ชมครับ และหากท่านผู้อ่านมีคำถามหรือข้อคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับบทความ “มุมมองอาร์บิเตอร์” ขอเชิญส่งมาทาง patcharawee.pb@gmail.com ครับ
- d4 d5 2. Bg5 Bf5 3. e3 Nd7 4. Nf3 Ngf6 5. c4 c6 6. cxd5 cxd5 7. Be2 e6 8. Qb3 Bxb1 9. Bxf6 Qa5+ 10. Nd2 Bb4
- Bxg7 Rg8 12. Qd1 Bxd2+ 13. Qxd2 Qxd2+ 14. Kxd2 Rxg7 15. Raxb1 Rxg2 16. f4 O-O-O 17. Rbg1 Rdg8 18. Rxg2 Rxg2 19. Ke1 Nf6 20. Kf1 Rg6 21. Bf3 Nd7 22. h4 Nb6 23. b3 a6 24. Rh2 Na8 25. Rg2 Rxg2 26. Kxg2 Kd7 27. Be2 Nc7 28. a4 a5 29. Kg3 Ke7 30. Kg4 Kf6 31. Bd3 h6 32. Kh5 Kg7 33. Kg4 Ne8 34. f5 Nf6+ 35. Kf4 Nd7 36. fxe6 fxe6 37. Bb5 Nf8 38. Ke5 Kf7 39. Kd6 h5 40. Bd3 Kf6 41. Kc7 Ng6 42. Be2 Nxh4 43. Bxh5 Ng2 44. Kxb7 Nxe3 45. Kb6 Nf5 46. Kxa5 Nxd4 47. Kb4 Ke7 48. Bd1 Kd6 49. Ka5 e5 50. Kb6 Nc6 51. a5 d4 52. a6 e4
- b4 Nxb4 54. a7 Nd5+ 55. Kb5 Nc7+ 56. Kc4 d3 57. Kd4 Nb5+ 58. Kxe4 ½-½
Hi, this is a comment.
To get started with moderating, editing, and deleting comments, please visit the Comments screen in the dashboard.
Commenter avatars come from Gravatar.